แทงบอลยังไง คำถามที่พบบ่อยและที่นี่มีคำตอบเรื่องการแทงบอลสำหรับใหม่
By adminUG เวลา 21 กันยายน 2024 5:36 pm คำถามที่พบบ่อย แทงบอลยังไง ที่นี่มีคำตอบเรื่องการแทงบอลสำหรับใหม่
แทงบอลยังไง มือใหม่ที่สนใจที่จะเริ่มแทงบอลตั้งคำถาม เนื้อหาครั้งนี้มีคำตอบให้คุณตั้งแต่เรื่องของที่มาที่ไป รวมไปถึงทริคต่างๆ ก่อนอื่นลองมาทำความรู้จักกันก่อนว่าการแทงบอลในปัจจุบันคืออะไร และการเล่นในปัจจุบันแตกต่างกับการเล่นในอดีตยังไง การแทงบอลออนไลน์ในปัจจุบันและการแทงบอลในอดีตมีความแตกต่างกันหลายอย่างที่สำคัญ ซึ่งพัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีและความสะดวกสบายในการเข้าถึงบริการต่างๆ ลองเปรียบเทียบข้อแตกต่างหลักๆ ว่าแทงบอลยังไงกันดูว่าเป็นยังไงบ้างกันครับ
- วิธีการวางเดิมพัน
- อดีต > การแทงบอลต้องทำผ่านโต๊ะบอลหรือเจ้ามือที่รับแทง โดยผู้เล่นต้องเดินทางไปที่สถานที่ดังกล่าวเพื่อวางเดิมพัน
- ปัจจุบัน > แทงบอลอัตโนมัติสามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันบนมือถือ ผู้เล่นสามารถเดิมพันได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องเดินทาง
- ความสะดวกสบาย
- อดีต > การเดิมพันค่อนข้างยุ่งยาก ต้องไปถึงโต๊ะบอล และการตรวจสอบผลการแข่งก็ใช้เวลานาน
- ปัจจุบัน > การแทงบอลออนไลน์ให้ความสะดวกสบายสูงสุด ผู้เล่นสามารถวางเดิมพันและตรวจสอบผลได้แบบเรียลไทม์ผ่านมือถือหรือคอมพิวเตอร์
- ตัวเลือกการเดิมพัน
- อดีต > ตัวเลือกในการแทงบอลมักจะจำกัดอยู่ในรูปแบบการแทงแบบพื้นฐาน เช่น แพ้/ชนะ หรือราคาต่อรองที่กำหนดโดยโต๊ะบอล
- ปัจจุบัน > แทงบอลออนไลน์มีตัวเลือกการเดิมพันที่หลากหลาย เช่น การแทงสกอร์, แทงจำนวนประตู, การแทงลูกเตะมุม, การเดิมพันแบบสด (Live Betting) และอื่นๆ
- อัตราต่อรอง
- อดีต > อัตราต่อรองถูกกำหนดโดยเจ้ามือท้องถิ่น ซึ่งบางครั้งอาจไม่เป็นกลางและไม่มีตัวเลือกมากมาย
- ปัจจุบัน > การแทงบอลออนไลน์มีอัตราต่อรองที่โปร่งใส และมีการเปรียบเทียบจากผู้ให้บริการหลายราย ทำให้ผู้เล่นสามารถเลือกอัตราที่ดีที่สุดได้
- ความปลอดภัย
- อดีต > การแทงบอลผ่านโต๊ะบอลมีความเสี่ยงทางด้านกฎหมายและการโกงจากเจ้ามือ
- ปัจจุบัน > แทงบอลออนไลน์ในเว็บไซต์ที่มีใบอนุญาตอย่างถูกต้องจะมีระบบรักษาความปลอดภัยสูง ทั้งในด้านการเงินและข้อมูลส่วนตัว
- โบนัสและโปรโมชั่น
- อดีต > ไม่มีโปรโมชั่นหรือโบนัสจากการแทงบอลโต๊ะ
- ปัจจุบัน > แทงบอลออนไลน์มักจะมีโบนัสและโปรโมชั่นมากมาย เช่น โบนัสสมัครสมาชิก, โบนัสเงินฝาก, โปรโมชั่นพิเศษต่างๆ ที่เพิ่มมูลค่าให้กับผู้เล่น
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้การแทงบอลออนไลน์ในปัจจุบันเป็นที่นิยมมากขึ้นกว่าในอดีต ด้วยเหตุผลหลายอย่าง จึงทำให้การแทงบอลมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย
รูปแบบการแทงบอลในปัจจุบันมีรูปแบบอะไรบ้าง แล้วมีกติกาแทงบอลยังไง
การแทงบอลออนไลน์ในปัจจุบันมีหลายรูปแบบให้ผู้เล่นเลือกตามความชอบและกลยุทธ์ที่ต้องการ โดยแต่ละรูปแบบมีกติกาการเล่นที่แตกต่างกันไป นี่คือรูปแบบการแทงบอลยอดนิยมและกติกาพื้นฐาน
1. แทงบอลเต็ง (Single Bet)
- รูปแบบ > เป็นการแทงเพียง 1 คู่ในบิลเดียว เลือกแทงทีมใดทีมหนึ่งว่าจะชนะ หรืออาจแทงเสมอก็ได้
- กติกา > ถ้าทีมที่เลือกชนะตามราคาต่อรอง ผู้เล่นจะได้รับเงินรางวัลตามอัตราที่กำหนด
2. แทงบอลสเต็ป (Parlay หรือ Accumulator Bet)
- รูปแบบ > เป็นการแทงหลายคู่ในบิลเดียว โดยขั้นต่ำอยู่ที่ 2 คู่ขึ้นไป (บางเว็บไซต์อาจกำหนดมากกว่านี้)
- กติกา > ผู้เล่นจะต้องทายผลทุกคู่ที่เลือกถูกต้องทั้งหมด ถ้าทายผิดแม้แต่คู่เดียว บิลนั้นจะเสียเงินทันที แต่หากทายถูกหมด ผลตอบแทนจะคูณทวีขึ้นตามจำนวนคู่และอัตราต่อรองของแต่ละคู่
3. แทงบอลสูง/ต่ำ (Over/Under)
- รูปแบบ > การเดิมพันจำนวนรวมของประตูที่ทั้งสองทีมทำได้ว่าจะสูงกว่าหรือต่ำกว่าค่าที่เว็บไซต์กำหนด
- กติกา > ถ้าจำนวนประตูรวมมากกว่าค่าที่กำหนด (เช่น 2.5) และผู้เล่นแทงสูง ผู้เล่นจะชนะ หรือถ้าจำนวนน้อยกว่านี้และแทงต่ำ ผู้เล่นจะชนะ
4. แทงบอลคู่/คี่ (Odd/Even)
- รูปแบบ > เดิมพันว่าผลรวมของจำนวนประตูทั้งหมดในเกมจะเป็นเลขคู่หรือเลขคี่
- กติกา > ถ้าผลรวมของประตูเป็นเลขคู่และผู้เล่นแทง “คู่” ผู้เล่นจะชนะ แต่ถ้าเป็นเลขคี่และแทง “คี่” ผู้เล่นจะชนะ
รูปแบบ > การแทงผลการแข่งขัน 3 แบบ คือ
- 1 = ทีมเหย้าชนะ
- X = เสมอ
- 2 = ทีมเยือนชนะ
กติกา > ผู้เล่นเลือกทายว่าผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร โดยไม่ต้องคำนึงถึงราคาต่อรอง
6. แทงบอลแฮนดิแคป (Handicap)
- รูปแบบ > การเดิมพันแบบมีราคาต่อรอง โดยทีมหนึ่งจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบในการแข่งตามที่เว็บไซต์กำหนด
- กติกา > ทีมที่เก่งกว่า (ทีมต่อ) จะมีราคาต่อเป็นจำนวนประตู เช่น ต่อ 1.5 ประตู ถ้าผู้เล่นแทงทีมต่อ ทีมต่อจะต้องชนะมากกว่า 2 ประตูขึ้นไปถึงจะชนะเดิมพัน ถ้าชนะไม่ถึงก็เสียเงิน
7. แทงบอลลูกเตะมุม (Corner Bet)
- รูปแบบ > การเดิมพันจำนวนลูกเตะมุมในเกมว่าจะสูงหรือต่ำกว่าที่เว็บไซต์กำหนด หรือแทงทีมที่จะได้ลูกเตะมุมมากกว่า
- กติกา > การคำนวณจำนวนลูกเตะมุมทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเกม และเทียบกับอัตราที่เลือกเดิมพัน
8. แทงบอลแบบครึ่งเวลา/เต็มเวลา (Half Time/Full Time)
- รูปแบบ > การแทงผลการแข่งขันเฉพาะครึ่งแรก (HT) หรือผลเต็มเวลา (FT) หรือสามารถแทงได้ทั้งครึ่งแรกและเต็มเวลา
- กติกา > ผู้เล่นต้องทายผลการแข่งขันในช่วงเวลาที่เลือกว่าทีมใดจะชนะหรือเสมอ
กติกาแทงบอลเพิ่มเติมที่ควรรู้
- การยกเลิกการเดิมพัน การเดิมพันบางประเภทอาจถูกยกเลิก เช่น ในกรณีที่การแข่งขันถูกยกเลิก หรือเลื่อนเวลาการแข่งขันเกินที่กำหนด
- การคำนวณอัตราต่อรอง แต่ละเว็บไซต์จะมีราคาต่อรองที่แตกต่างกันไป ผู้เล่นควรตรวจสอบก่อนวางเดิมพัน
- ช่วงเวลาในการแทง ผู้เล่นสามารถเดิมพันได้ทั้งก่อนเกมเริ่ม (Pre-match) และระหว่างเกม (Live Betting)
รูปแบบการแทงเหล่านี้ทำให้การแทงบอลออนไลน์หลากหลายและท้าทายมากขึ้น จึงเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน นอกจากการที่คุณได้ทำความเข้าใจในส่วนของรูปแบบและกติกาต่างๆ แล้ว สิ่งสำคัญเลยก็คือการดูราคาอัตราต่อ รอง ซึ่งจำเป็นในการแทงบอลมาก เพราะจะทำให้คุณเข้าใจว่าคุณเล่นแล้วจะได้ผลตอบแทนยังไง
วิธีอ่านค่าอัตราต่อ – รองราคาค่าน้ำมีวิธีดูยังไง
การอ่านค่าอัตราต่อรองเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการแทงบอลออนไลน์ เพราะเป็นตัวบ่งชี้ความน่าจะเป็นและเงินรางวัลที่ผู้เล่นจะได้รับเมื่อชนะเดิมพัน อัตราต่อรองสามารถแสดงในหลายรูปแบบ เช่น แบบทศนิยม, แบบฮ่องกง, แบบมาเลย์, และแบบอเมริกัน มาดูวิธีอ่านค่าอัตราต่อรองแต่ละแบบดังนี้
1. อัตราต่อรองแบบทศนิยม (Decimal Odds)
- วิธีอ่าน > อัตราต่อรองทศนิยมเป็นรูปแบบที่ง่ายที่สุด โดยจะแสดงตัวเลขในรูปแบบทศนิยม เช่น 1.80 หรือ 2.50
- วิธีคำนวณ > นำจำนวนเงินเดิมพันคูณด้วยอัตราต่อรอง
- ตัวอย่าง > ถ้าผู้เล่นเดิมพัน 100 บาทที่อัตราต่อรอง 2.00 แล้วชนะ ผู้เล่นจะได้เงินทั้งหมด 100 x 2.00 = 200 บาท (รวมทุน)
2. อัตราต่อรองแบบฮ่องกง (Hong Kong Odds)
- วิธีอ่าน > คล้ายกับอัตราต่อรองทศนิยม แต่ตัวเลขจะเป็นจำนวนที่แสดงเฉพาะ “กำไร” ที่จะได้ ไม่รวมทุน เช่น 0.80 หรือ 1.50
- วิธีคำนวณ > นำเงินเดิมพันคูณด้วยอัตราต่อรอง และบวกทุนที่เดิมพันเข้าไป
- ตัวอย่าง > ถ้าเดิมพัน 100 บาทที่อัตราต่อรอง 1.50 แล้วชนะ ผู้เล่นจะได้เงินกำไร 100 x 1.50 = 150 บาท และจะได้รับคืนทุน 100 บาทด้วย รวมเป็น 250 บาท
3. อัตราต่อรองแบบมาเลย์ (Malay Odds)
- วิธีอ่าน > อัตราต่อรองแบบมาเลย์มี 2 รูปแบบ คือ อัตราต่อรองบวก (ค่าน้ำบวก) และอัตราต่อรองลบ (ค่าน้ำลบ)
- ค่าน้ำบวก (Positive Malay Odds) > เช่น 0.75 หมายถึงการแทง 100 บาท ผู้เล่นจะได้รับกำไร 75 บาท (รวมเป็น 175 บาท)
- ค่าน้ำลบ (Negative Malay Odds) > เช่น -0.80 หมายถึงการแทง 100 บาท ผู้เล่นจะต้องเสี่ยง 80 บาทเพื่อได้รับกำไร 100 บาท (รวมเป็น 200 บาท)
4. อัตราต่อรองแบบอเมริกัน (American Odds)
- วิธีอ่าน > แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ อัตราต่อรองบวก (Positive Odds) และอัตราต่อรองลบ (Negative Odds)
- อัตราต่อรองบวก > เช่น +150 หมายถึงการแทง 100 บาท จะได้กำไร 150 บาท (รวมเป็น 250 บาท)
- อัตราต่อรองลบ > เช่น -150 หมายถึงการแทง 150 บาท จะได้กำไร 100 บาท (รวมเป็น 250 บาท)
5. อัตราต่อรองแบบไทย (แบบแฮนดิแคป)
- วิธีอ่าน > ในการแทงบอลแฮนดิแคป อัตราต่อรองจะใช้กับการทายผลแพ้ชนะโดยมีแต้มต่อ เช่น ทีม A ต่อ 0.5 ลูก (ครึ่งลูก) หรือ 1.5 ลูก (หนึ่งลูกครึ่ง)
- 0.5 (ครึ่งลูก) > หมายถึงทีมที่ต่อจะต้องชนะอย่างน้อย 1 ลูกเพื่อชนะการเดิมพัน
- 1.5 (หนึ่งลูกครึ่ง) > หมายถึงทีมที่ต่อจะต้องชนะมากกว่า 2 ลูกขึ้นไปจึงจะชนะเดิมพัน ถ้าชนะเพียง 1 ลูก จะเสียเงินเดิมพัน
ตัวอย่างการอ่านอัตราต่อรอง
สมมุติว่าในการแข่งขันฟุตบอลระหว่างทีม A และทีม B มีการตั้งอัตราต่อรองดังนี้
- ทีม A มีอัตราต่อรอง 2.00
- ทีม B มีอัตราต่อรอง 3.50
หากผู้เล่นเดิมพันทีม A ที่อัตราต่อรอง 2.00 ด้วยเงิน 100 บาท แล้วทีม A ชนะ ผู้เล่นจะได้เงินทั้งหมด 100 x 2.00 = 200 บาท (รวมทุน)
สรุปโดยรวม
🔸อัตราต่อรองทศนิยม คำนวณง่าย เพียงแค่นำเงินเดิมพันคูณกับอัตราต่อรอง
🔸อัตราต่อรองฮ่องกง แสดงกำไรที่ได้จากการเดิมพัน ไม่รวมทุน
🔸อัตราต่อรองมาเลย์ แบ่งเป็นบวกและลบ คำนวณความเสี่ยงหรือกำไรจากการเดิมพัน
🔸อัตราต่อรองอเมริกัน แสดงค่าเป็นบวกหรือลบ แสดงกำไรที่ได้จากการแทง 100 หน่วย
🔸อัตราต่อรองไทย (แฮนดิแคป) ใช้แต้มต่อในการเดิมพัน เช่น ครึ่งลูก, หนึ่งลูก
และนี่คือเนื้อหาข้อมูลว่าด้วยเรื่องแทงบอลยังไง และนี่คือข้อมูลทั้งหมดที่เรารวบรวมและนำมาบอกต่อสำหรับผู้เล่นมือใหม่อย่างละเอียด เชื่อว่าเนื้อหานี้จะช่วยให้คุณเข้าใจในเรื่องของการแทงบอลได้ไม่มากก็น้อยนะครับ